"เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ เดินชมวิวริมแม่น้ำ และปิดท้ายด้วยเทศกาลโคมไฟ"
สวัสดีทุกๆ ท่าน วันนี้เป็นวันที่ 3 แล้วที่ผมได้อยู่ที่ไทเป ไต้หวัน ที่ผ่านมา 2 วันยังคงเจอฝนตกปรอยๆ เป็นระยะโดยเฉพาะบนที่สูงและริมฝั่ง ซึ่งตามพยากรณ์แล้ววันนี้ก็จะมีฝนช่วงบ่ายเหมือนเดิมครับ ไม่เป็นไรเราพร้อมอยู่แล้ว ลุยต่อ...
วันนี้ตามที่วางโปรแกรมไว้ ตอนแรกก่อนมาจะเที่ยวตามเส้นรถไฟฟ้าสายสีแดงครับ แต่จะเริ่มไปวัดหลงชานก่อนซึ่งคนละสายกัน แต่เนื่องจากเมื่อคืนนัดเวลากันผิด ก็เลยออกจากโรงแรมสาย ผมกับภรรยาตื่นแล้วเลยไปสำรวจหาร้านอาหารเช้ารอบๆ ที่พักก่อนเดี๋ยวค่อยกลับมาพาคุณพ่อตากับแม่ยายไป
ลงมาอย่างแรกที่มองหาคือร้านกาแฟครับ(ผมเป็นคนชอบทานกาแฟ ขาดไม่ได้ตอนเช้า และชอบทานกาแฟดำไม่ใส่นม ไม่ใส่น้ำตาล แต่ไม่ชอบเอสเปรสโซ่ครับ มันเข้มเกินไป ทานแบบละเมียดยาก อิอิ เรื่องมากไม๊ครับ 55) เคยหามามีร้านกาแฟที่ดั้งเดิมอยู่ร้านนึงย่านนี้ ใช้เครื่องชงแบบไซฟ่อนด้วย พิกัดคือตรงข้ามปากซอยโรงแรมเลยครับ
 |
หน้าร้านเลยครับ มีขนมอยู่ในโหลๆ แบบนี้เลย ผมจำชื่อร้านไม่ได้ น่าจะชื่อต้าฟง ถ้าจำไม่ผิด ข้างๆ กันมีอีกร้านนึงแต่จะออกแนวใหม่กว่าครับ คราวหน้าค่อยลอง |
 |
เครื่องชงแบบโบราณมาก น่าจะเป็น cold drip ที่จิ่วเฟิ่นมีร้านตั้งโชว์ขายอยู่ครับ ร้านแรกๆ เลยถ้าจะลองแนะนำให้ใส่น้ำตาลด้วยผมชิมป่าวๆ แล้วไม่อร่อยเลย 55 |
 |
เครื่องบดกาแฟตรึมเลย |
 |
นี่แหละกาแฟเรา เครื่องชงไซฟ่อน ผมสั่งเมล็ดกาแฟของจาวาดูครับ ก็โอเครสชาติดี กลิ่นหอมดีครับ |
 |
ภรรยาผมไม่ทานกาแฟ เลยทำหน้าหวานนั่งรอ ถ่ายซะหน่อย อิอิ |
ในร้านนอกจากกาแฟจะมีอาหารพวกแซนวิส อาหารชุดแบบฝรั่งๆ ขายด้วยนะครับ แต่พอดีผมไม่ได้ลองเพราะจะไปหาร้านแนว Traditional น่าจะถูกใจพ่อตามากกว่า สั่งกาแฟเสร็จแล้วก็ออกไปสำรวจต่อครับ
เดินเจออยู่ 2-3 ร้าน แล้วพาพ่อตามาเลือก ได้ร้านนี้ครับ ด้านหน้ามีขาหมู มีบะหมี่ เอาล่ะน่าจะเวิร์ก ลองจัดดู รสชาติอย่าเทียบกับไทยครับ เพราะความจัดจ้านเข้มข้นจะไม่เหมือนกัน แต่ผมว่าก็อร่อยในระดับนึงครับ เรื่องรสชาติบอกกันไม่ได้ต้องมาลองครับ
 |
ป้ายเมนูครับ อ่านไม่ออก |
 |
มีหม้อขาหมูแน่ๆ มีลูกชิ้น มีเส้นลวกๆ โอเคละ |
 |
เครื่องพะโล้ต่างๆ น่าทานดีครับ |
 |
เส้นหมี่ กับขาหมู |
 |
เส้นหมี่กับเกี๊ยวหมู |
 |
เส้นหมี่กับเอ็นเนื้อ |
เมื่อทานเสร็จเราก็ออกเดินทางไปพิพิธภัณฑ์แห่งชาติกู้กงครับ เดิมทีวางแผนไว้ว่าจะไปวัดหลงชาน แต่สายแล้วกลัวคนเยอะไปพิพิธภัณฑ์ก่อนละกัน การเดินทางใช้ MRT สายสีแดงลงสถานี Shilin ครับ เมื่อออกจากสถานีต้องต่อด้วยรถเมล์ หรือแท๊กซี่ครับ เนื่องจากมีรถเข็นเลยขอลองไปแท๊กซี่ก่อนละกันครับ ไม่ไกลเท่าไรก็ถึงครับ จอดใต้อาคารเลย สะดวกสบายมาก
 |
ออกจากสถานีมาก็จะเจอ Sushi ในตำนานที่ถูกและดีของไต้หวัน Sushi Take-Out ดูจากป้ายราคาแล้วไม่แพงเลย เดี๋ยวขากลับเจอกัน |
ที่พิพิธภัณฑ์จะไม่ให้นำกล้อง กระเป๋าเป้เข้านะครับ มือถือเข้าได้ เค้าจะมีล็อกเกอร์ให้เก็บของ ความพิเศษของล็อกเกอร์ก็คือ เราจะต้องใส่เหรียญ 10 ลงไปในช่องสีดำด้านในก่อนถึงจะดึงกุญแจออกได้ พอเรามาเอาของคืนไขกุญแจเหรียญจะตกลงมาคืนให้เรา แสดงว่าไม่เสียเงินนะครับ เข้าใจคิดแฮะ อิอิ
 |
ด้านในของพิพิธภัณฑ์จะมีมุมฮิตนี่แหละครับ ที่ถ่ายได้ |
 |
ด้านนอกอาคาร |
 |
อีกอาคารนึงด้านข้างๆ กัน รู้สึกจะมีร้านอาหารด้วย |
 |
วิวจากด้านหน้าทางเข้า |
เราใช้เวลาอยู่ในพิพิธภัณฑ์พอสมควรครับ จริงๆ ถ้าจะดูละเอียดบางทีต้องใช้เวลานานครับ ไฮไลท์จะอยู่ที่ชั้นสาม หยกผักกาด กับหินหมูสามชั้น ซึ่งส่วนการแสดงของของสองชิ้นนี้จะไม่ให้นักท่องเที่ยวยืนแช่นานครับ เจ้าหน้าที่จะคอยเรียกให้เดินไปเรื่อยๆ เพื่อให้คนหลังๆ ได้ดูด้วยครับ การจัดการดีจริงๆ ในพิพิธภัณฑ์ห้ามเสียงดังนะครับ จะมีเจ้าหน้าที่ถือป้ายและจะคอยมาสะกิดถ้าเราเสียงดังครับ ทัวร์จีนเข้าก็เอาไม่อยู่ครับ อิอิ
ขากลับจากพิพิธภัณฑ์ เรานั่งรถเมล์จากใต้อาคารหลักเลยครับ สาย R30 สีแดง นั่งไปลงสถานี Shilin MRT ได้เลย ตรงนี้มันมีเรื่องประทับใจเล่าให้ฟังครับ
คือรถประจำทางที่ไต้หวันเค้าจะรองรับรถเข็นให้สามารถเข็นขึ้นรถได้เลยและจะมีที่ให้รถนั่งรถเข็นได้จับได้รัดเข็มขัดครับ ทีนี้รถคันนี้แผ่นรองสีเหลืองๆ จะต้องหยิบออกมาคือไม่ได้วางอยู่ที่พื้น คนขับจะเป็นคนเอามาวางให้ครับ ตอนลงสถานี พี่แกคงลืมว่าเรามารถเข็นจะลงแกจอดห่างฟุตบาทไปหน่อย แกเลยต้องถอยขยับเข้าออกเพื่อให้กระดานสีเหลืองๆ พาดฟุตบาทให้ได้ ถอยอยู่สองสามที จนเราเกรงใจบอกไม่เป็นไรลงพื้นก็ได้ คนขับก็เลยจอดรถลงมาช่วยจัดการยกรถเข็นขึ้นฟุตบาทให้เราด้วย แหม่ย้อนกลับมามองรถประจำทางบ้านเรา คงต้องพัฒนาอีกเยอะเลยครับ ..
ก่อนเดินทางไปที่ต่อไป เราแวะเติมพลังกันแถวๆ สถานีครับ เหลือบไปเห็นทางซ้ายมือมีร้านน่าสนใจอยู่ร้านนึง เลยเดินๆ ไปดูเมนู มีรูปให้ดู คิดว่าคงสั่งง่ายดี เลยลองดูครับ อาหารเป็นแนวชาบูหม้อไฟ มีข้าวเปล่าให้ไม่อั้น มีทั้งจานเดี่ยวและเป็นเซ็ตครับ
 |
หน้าร้านครับ |
 |
ป้ายเมนูในร้าน เป็นเซ็ทชาบูกับอาหารอีกอย่าง พวกไก่ทอด ครับ |
 |
จัดมา 1 เซ็ต ถ้ามีน้ำจิ้มแจ่วบ้านเรานะ เด็ดเลย |
 |
ชาบูร้อนๆ |
เมื่อเติมพลังแล้ว เราก็มุ่งหน้าต่อไป ตามแผนเดิมจะไปที่ Xin Beitou ไปแช่น้ำพุร้อน แต่ดูๆ เวลาแล้วคงไม่ทันเลยตรงไป Tamsui เลยครับ สุดสาย MRT สีแดง นี่แหละครับ
ที่ Tamsui จะเป็นวิวริมแม่น้ำปากอ่าวก่อนออกสู่ทะเลครับ มีเรือประมงเล็กใหญ่ มีถนนโบราณที่มีร้านขายของเยอะแยะมากมาย และสามารถนั่งเรือต่อไปที่ Fisherman Wharf ได้ครับ หรือจะนั่งเรือข้ามฝากไป Bali ก็ได้เหมือนกัน
 |
สถานีรถไฟฟ้า Tamsui ครับ |
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น