ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

คู่เลิฟตะลอนกินลงใต้ ... ตอนที่ 6 จากเบตง ถึง ปีนัง One Day Trip


สวัสดีจ้า ...

ตอนนี้เป็นตอนสุดท้ายของทริปนี้ เราจะไปชมเมืองปีนัง ประเทศมาเลเซียกัน โดยขับรถไปจากเบตง ไม่ใกล้ไม่ไกล เหมือนขับรถไปเที่ยวพัทยานี่เองจ้า ...


ออกเดินทางจากเบตงแต่เช้าตรู่ ถนนหนทางยังว่าง สังเกตุเมืองบนเขายามเช้าจะมีหมอกบางๆ พอให้หนาวเย็นกันอยู่ อิอิ


ที่ด่านศุลกากร คนยังน้อยเลยครับ สาเหตุที่ออกเช้าจะได้ไม่ต้องต่อคิวนาน


ขับรถผ่านด่านมาสักพัก ก็เจอป้ายแล้ว เป้าหมายเราคือ Butterworth 104 กิโลเมตร เอง จิ๊บๆ


ถนนหนทาง ก็พอๆ กับบ้านเราครับ วิวสวยงาม ทางลงเขาเหมือนกัน ทางลงจะวิ่งเลนเดียว ทางขึ้นมี 2 เลน เผื่อให้รถช้าขับชิดซ้าย


วิ่งทางด่วนบูรพาวิถี 55 ไม่ใช่ละ ทางด่วนมีช่องจ่ายเงินหลายบัตรนะครับ แล้วแต่ใครจะมีแบบไหน ของเราก็ ทัชแอนโก คือ ต้องเอาบัตรไปแตะๆ ถึงเปิดได้ ส่วน สมาร์ทแท๊ก นั้น เหมือน อีซี่พาส บ้านเราครับ


การข้ามไปเกาะปีนัง มี 2 แบบครับ 1 คือข้ามสะพาน 2 คือ นั่งเรือเฟอรรี่ ซึ่งผมเคยไปมาแล้วด้วยเรือเฟอรรี่ มันก็ดีนะครับ ไม่ต้องลงรถ ขับรถไปจอดใต้เรือ เรือข้ามถึงฝั่งก็ลง แต่เรือเค้าใหญ่มากนะครับ พอดีไม่มีรูป คราวนี้ก็ขับรถข้ามสะพานไป มันเร็วกว่ากันครับ ถ้ารถไม่ติด อิอิ สะพานจะข้ามไปเกาะปีนังก็มี 2 สะพานนะครับ แล้วแต่ว่าใครมาจากทางไหน เห็นพ่อตาบอกว่าถ้ามาจากกัวลาลัมเปอร์จะใช้อีกสะพานหนึ่ง


ก่อนใช้สะพานก็เสียตังค์ก่อนนะครับ ไม่ได้ฟรีๆ 55


ขับรถข้ามทะเล แดดยามเช้ายังไม่แรงมาก ฟ้าสีสวยๆ มันดีนะครับ


มองเห็นฝั่งเกาะลิบๆ สะพานปีนัง น่าจะเป็นสะพานข้ามทะเลที่ยาวที่สุดติดอันดับใน 10 ของโลกนะครับจากข้อมูลที่พบ


ตรงกลางจะเป็นช่วงสะพานแขวนครับไว้ให้เรือใหญ่ผ่านได้


มองเห็นวิวเกาะชัดขึ้นละครับ จะถึงแล้ว เกาะปีนัง

มาถึงแต่เช้าก็ต้องหาอะไรรองท้องกันหน่อย แน่นอนมากับไกด์กิติมศักดิ์ ต้องไปศูนย์อาหารท้องถิ่นเลยครับ หรือเรียกว่า Hawker นั่นเอง


ประเดิมด้วย ชาก๋วยเตี๋ยวแบบซีฟู้ด มีกุ้งมีหอย หุๆ เด็ดๆ


ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นน้ำใส ที่ปีนังเรียก ก๋วยเตี๋ยวทึง ถ้าอยากเพิ่มรสชาติต้องกินกับพริกซีอิ๊ว นะครับ


ขนมผักกาด ซึ่งไม่เหมือนบ้านเราเลย ผมว่าสีสันมันดูน่ากินกว่าบ้านเรานะ


จานนี้อยากลอง ข้าวไก่ย่างหมูกรอบ หุๆ มีพริกน้ำส้มให้จิ้มด้วย พอได้นะครับ รสชาติโอเคอยู่


ซาลาเปาทอด หรือ หั่นจิ้นแป๋ง (ใช่ป่าวหว่า 55) มีไส้ด้วยนะครับ ลูกใหญ่ อร่อยดี


ซาลาเปาธรรมดาก็มี ไม่ได้ลอง อิ่มแล้ว ลูกใหญ่กว่า เซเว่น อีก อิอิ


ร้านข้าวแกง แกงน่ากินมาก สีสัน มันโดนมาก แต่รสชาติไม่รู้ พอดีอิ่มแล้วครับ เค้าพึ่งตั้งร้านเสร็จ โหย เสียดาย ต้องไปลองคราวหน้า อิอิ

อิ่มแล้วเราก็ขับรถชมเมืองกัน ไปเรื่อยๆ ครับ เพราะคุณแม่เดินไม่ค่อยสะดวก ก็เลยเน้นขับรถชมเมืองไปเรื่อยๆ


มัสยิดกลาง ใหญ่และสวยงามครับ ที่ปีนังก็มีผู้คนหลากหลายนะครับ มีอิสลาม พุทธ คริสต์


เราขับรถไปเที่ยว วัดเต่า กันครับ เป็นวัดที่ใหญ่มาก ตั้งอยู่บนเขา และมีองค์เจ้าแม่กวนอิมที่ใหญ่มากประดิษฐานอยู่


องค์เจ้าแม่ที่ใหญ่มากแล้ว ศาลาที่สร้างเพื่อคลุมองค์เจ้าแม่ก็ใหญ่ไม่แพ้กัน ใหญ่มากจริงๆ



 นอกจากนี้ ด้านในศาลา ยังมี องค์เจ้าแม่กวนอิมพันมือที่ทำจากไม้ประดิษฐานอยู่ด้วย สวยงามมากครับ



เสาหิน ก็คือ ทำมาจากหินเป็นท่อนทรงกระบอกมาวางต่อๆ กันครับ แถมแกะสลักลายมาก่อน แล้วค่อยมาวางเรียงกันเป็นเสาของศาลา มันอลังการมากทีเดียว


วิวจากระเบียงวัดด้านบนจะมองเห็นเมืองปีนังฝั่งที่ข้ามสะพานมาได้ทั่วทีเดียวครับ สวยงามดี มีทั้งบ้านเก่า บ้านใหม่ ตึกสูงๆ สลับกันไป


ออกจากวัดมา เจอขนมโบราณ ถึงขนาดต้องแวะซื้อกันเลยทีเดียว


เป็นขนมที่เอาแป้งไปคลุกๆ กับถั่วบดหยาบๆ ครับ


ไม่รู้เมืองไทยเรียกอะไร หรือว่ามีขายหรือเปล่า แต่พ่อตาบอกหากินยาก รสชาติก็มันๆ หวานๆ อร่อยดีครับ เหมือนตอนไปไต้หวันก็จะมีแบบนี้ คล้ายๆ กัน



ขับรถชมเมืองไปเรื่อยๆ ครับ


อีกหนึ่งไฮไลท์ของปีนัง คือ ปีนังฮิลล์ ที่ที่ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะมากันเยอะ ปีนังฮิลล์คือจะนั่งรถรางกระเช้า คล้ายๆ ตามวัดในเมืองไทย คือมีสลิงดึงรถขึ้นไปตามราง ตอนนี้น่าจะใหม่กว่าเดิมนะครับ ด้านบนก็จะมีสถานที่ ร้านค้าให้เที่ยวชม ถ่ายภาพกัน ผมเคยขึ้นไปมาครั้งหนึ่งแล้วครับ แต่คราวนี้ไม่ได้ขึ้น อากาศร้อน และคนเยอะ แม่ไม่ค่อยสะดวก เลยติดไว้ คราวหน้ามีโอกาสจะขึ้นไปใหม่ ครับ

มีรถบัสเปิดประทุนพาเที่ยวด้วย ร้อนๆ แบบนี้ นั่งในแอร์จะดีกว่านะ อิอิ


ขับรถไปชมวิว แถวๆ ริมน้ำหน่อย ทะเลฝั่งนี้จะไม่มีหาดนะครับ ถ้าจะเที่ยวหาดสวยๆ ต้องไปอีกด้านหนึ่งของเกาะ ซึ่งคงต้องพักสักคืน เพื่อดื่มด่ำบรรยากาศ แต่เรามาแบบ One day Trip เอาแค่นี้ก่อน อิอิ

แถวๆ นี้จะมีอาคารเก่าแก่ ของที่นี่ ที่ตอนนี้ก็ปรับปรุงเป็นที่ทำการของทางราชการไปแล้ว


อาคารทรงแบบนี้ ในบ้านเราก็มีนะครับ น่าจะสมัยรัชกาลที่ 5 ตึกในโรงเรียนวัดเบญจมบพิตร ก็คล้ายกัน แต่ต่างตรงสี


อีกอาคารใกล้ๆ กัน บ้านเราก็มีคล้ายๆ เช่นกัน


เป็นที่ทำการอะไรสักอย่าง แฮะๆ อ่านไม่ออกครับ ขออภัย


สีสันของนักท่องเที่ยว 55 เก๋ดีครับ เป็นจักรยานนั่งได้ 5 คน หุๆ


เดี๋ยวจะไม่ใช่ คู่เลิฟตะลอนกิน ก็ขอสักรูปสองรูป ละกัน อิอิ


ตรงถนนเรียบหาดด้านนี้จะมีที่ท่องเที่ยวหลายแห่งนะครับ เป็นอาคาร และอีกที่หนึ่งก็คือ ป้อมปืนแห่งนี้ ซึ่งผมเคยมาครั้งแรก ยังไม่มีการเก็บค่าเข้า มาเที่ยวนี้เก็บซะแล้ว เลยไม่ได้เข้าเลย อิอิ


ชมวิวภายนอกไปละกันนะครับ ขออภัยอย่างสูง


อีกสักรูปละกันเด้อ ... แฮะๆ


ก็ขับรถมาตามถนนเรียบหาดเรื่อยๆ ชมเมืองไป เจอหอนาฬิกาน่าจะพึ่งบูรณะ สีสันยังสวยอยู่เลย



ใกล้ๆ กัน ก็จะเป็นย่านที่ค่อนข้างธุรกิจหน่อย มีการปรับปรุงอาคารเก่าให้ดูทันสมัย ตบแต่งใหม่ มีร้านดังๆ มาตั้งกันมากมายทีเดียว


สุดท้ายก็แวะซื้อของก่อนกลับบ้านเรา มาเจอร้านกาแฟน่าสนใจ เลยต้องขอเข้าไปลิ้มลองหน่อยละครับ


เครื่องชง มันสวยมาก ไม่รู้ราคาเท่าไร หุๆ


ส่วนผมเหรอ ไม่ได้ดื่มจากเครื่องชงสีดำนั้น แต่มีสาวๆ มาชงกับมือเลย อิอิ รสชาติดีครับ กาแฟดริป เจ้านี้ ฟินกันไป ร้านตั้งอยู่ในห้างที่ติดกับโลตัส จำชื่อไม่ได้ รู้แต่ว่ามีร้านขายชื่อ D.I.Y ตั้งอยู่ ลองเอาชื่อไปหาดูละกันนะครับ


อีกหนึ่งเมนู ที่มาปีนัง หรือ มาเลเซียแล้วห้ามพลาด คือนี่เลย น้ำแข็งใสใส่ไอศครีม ที่นี่เรียก ABC ประกอบด้วยน้ำแข็งใส ใส่เครื่องตามรูปเลย มีหลายแบบครับ โปะด้วยไอศครีมหนึ่งก้อน เป็นเมนูคลายร้อนได้ดีมาก ใครมาก็อย่าลืมลองกันนะครับ


ปิดท้ายกันละครับ One Day Trip สำหรับปีนัง ขากลับ ไม่รู้เพราะเป็นวันศุกร์ หรือวันทำงานสุดท้ายก่อนหยุดยาว รถติดมากกกก ข้ามสะพานเกือบสองชั่วโมงครับ เหอๆ

ใครมีโอกาสก็ลองมาเที่ยวปีนังกันนะครับ ไว้ถ้ามีเวลาจะลองมาแบบค้างคืนดูบ้าง เผื่อจะเจอที่เที่ยวเพิ่มเติม จริงๆ จะมาจากหาดใหญ่ก็ไม่ไกลนะครับขับรถมาได้เหมือนกัน ทางด่วนด้วย สบายๆ

สำหรับทริปคู่เลิฟตะลอนกินลงใต้ ก็ขอจบลงที่ตอนนี้ล่ะครับ ขอขอบคุณทุกท่านที่ได้ติดตามกัน แล้วพบกันใหม่ทริปหน้านะครับ ... สวัสดี


*****************************************************************************
กินที่เราอยากกิน เที่ยวที่เราอยากไป ขอให้มีความสุขกับทุกทริปกันนะจ๊ะ 
#คู่เลิฟตะลอนกิน
Facebook : คู่เลิฟตะลอนกิน

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

อาหารเช้า ไต้หวันสไตล์

การเที่ยวที่มีความสุขอีกอย่างหนึ่งคือ การได้ลิ้มลองของอร่อยประจำแหล่งนั้นๆ อาจจะขึ้นชื่อไม่ขึ้นชื่อ เจ้าดังหรือไม่ดัง อร่อย ถูกปากเราหรือไม่ ก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่ถ้าไหนๆ ไปแล้วก็คงต้องลองสักครั้งเพื่อให้รู้ว่าเค้ากินอะไรกัน รสชาติเป็นอย่างไร จริงหรือไม่ครับ ครั้งนี้เราไปไต้หวัน ก็มีโอกาสได้ลิ้มลองอาหารพื้นเมืองของคนไต้หวันมาบ้างพอสมควร ในบล็อกนี้จะรวบรวมอาหารเช้าที่เราได้มีโอกาสชิมรสมาแล้ว บางอย่างก็รสชาติใช้ได้ บางอย่างก็อาจจะจืดไปกับปากอย่างคนไทย อิอิ แต่โดยรวมเราถือว่ากินอยู่ที่นี่ได้แน่นอน ไม่อดตายแน่ๆ ครับ ลองไปดูกัน ร้านแรกอยู่ย่าน Ximen อยู่ด้านซ้ายมือถ้าเราห้นหน้าเข้าตึกแดง เดินมาทางซ้ายผ่านสถานีตำรวจมาครับ ร้านแรก จะเป็นสไตล์อเมริกันหน่อยครับ มีเบอร์เกอร์ แซนวิส กาแฟ ครับ  ขนมปังอร่อย ผักสด ส่วนเนื้อรสชาติจะอ่อนหน่อยนะครับ ร้านที่สอง อยู่ Ximen เหมือนกันครับ อยู่หลังตึกแดงฝั่งตรงข้ามครับ อีกร้านเป็นร้านสไตล์ไต้หวันครับ เป็นร้านบะหมี่ แล้วก็มีให้เลือกเครื่องเคียง หรือจะเป็นบะหมี่เกี๊ยว เนื้อเอ็น ครับ หน้าร้านจะมีหม้อตุ๋น หม้อลวกเส้น และเครื่องอื่นๆ ครับ

คู่เลิฟตะลอนกินลงใต้ ... ตอนที่ 3 ยะลา เมืองน่าเที่ยวนิ ร้านเด็ดธารา และเส้นทางไปเบตง

สวัสดีจ้า ... ตอนที่ 3 แล้ว กับการตะลอนลงใต้ของเรา เป้าหมาย เบตง ... บ้านอาหมวยของเรา ต่อจากตอนที่แล้วที่เราอิ่มอร่อยมื้อเช้ากับติ่มซำ อาม่า กันแล้ว เราก็ออกเดินทางจากหาดใหญ่มุ่งหน้าไป จ.ยะลา เราจะแวะตัวเมืองกันก่อน เพราะมีนัดกับเจ้าถิ่นที่นั่นครับ เส้นทางจากหาดใหญ่ ไปยะลานั้นถนนกว้างฝั่งละ 2 เลน ระหว่างทางรถไม่มาก ขับสบายๆ ทำความเร็วได้ดี ไม่ต้องกลัวโดนโบกความเร็ว 55 วันนี้แดดดีทีเดียวครับ ระหว่างทาง ทางแยก ทางร่วมก็จะมีด่านตรวจเป็นระยะๆ เพื่อความปลอดภัยของเราๆ จริงๆ บนถนนใหญ่ไม่มีอะไรมากครับ สบายๆ ถึงแว้ว ใช้เวลาประมาณ ชั่วโมงกว่าๆ หรือเปล่า 55 ก็ถึงแล้วครับ ยะลา เมืองน่าเที่ยว ป้ายบอกสถานที่ท่องเที่ยวทั้ง 3 ที่ เราไปหมดครับ เพราะยังไงก็ผ่าน อิอิ มาถึงเจ้าถิ่นก็พาเราขับรถชมเมืองกันก่อนเลย ถนนหนทาง ผู้คนก็ใช้ชีวิตปกติครับ วันนี้โรงเรียนไม่ปิด มีนักเรียน นักศึกษามาเรียนปกติ ข้างหน้า มีรถทหารนำทางเราด้วย 55 จุดศูนย์กลางผังเมือง หอนาฬิกา ครับ สังเกตุแทบจะทุกเมืองที่เราไปจะต้องมีวงเวียนหอนาฬิกา อิอิ ปีนี้ เป็นปี สีสันชายแดนใต้นะครับ ตึกตรงนี้จะทำสีรุ้ง