สวัสดีจ้า ...
บล็อกนี้ ยังคงเป็นทริปของวันที่ 3 ครับ จากตอนที่ 1 เราได้ไปเที่ยววัดหลงชาน กับ 1914 Huashan Creative Park กันมาแล้ว ช่วงที่ 2 หรือตอนบ่ายเราก็ออกเดินทางไปตามรถไฟฟ้าสายสีแดงกัน
นั่งรถไฟฟ้าสายสีแดงมุ่งหน้า Tamsui แต่ขอแวะกลางทางก่อน รอบที่แล้วไม่ได้แวะที่นี่ครับ บ่อน้ำพุร้อน Beitou
การเดินทางไม่ได้ยากอะไร ลงสถานี Beitou แล้วก็เปลี่ยนชานชลา รอรถเพื่อไปสถานี Xinbeitou ครับ
รถก็มีขบวนเดียวครับ วิ่งไปและกลับ ตัวรถแน่นอนต้องมีความมุ๊งมิ๊ง รถสายท่องเที่ยวทุกคันต้องตบแต่งตามสถานที่ ผมว่าอันนี้ทำได้ดีทีเดียวครับ น่าเอาเป็นแบบอย่างนะ
สถานีออกแบบสวยดีครับ อีกหน่อยบ้านเราก็คงจะมีแบบนี้บ้าง หวังไว้ครับ อิอิ
ออกจากสถานี Xinbeitou ก็เดินมุ่งหน้าไปตามทางเลยครับ มีป้ายบอกทางไปเรื่อยๆ
เดินตามทางมาเรื่อยๆ ก็จะเจออาคารที่สวยงามแห่งนี้ เป็นห้องสมุดครับ ได้ชื่อว่าเป็นห้องสมุดที่สวยงามมาก และประหยัดพลังงานด้วยครับ คนไต้หวันชอบอ่านหนังสือ ห้องสมุดก็เลยต้องใหญ่ และคนเยอะด้วยครับ ไม่เหมือนบ้านเรา หุๆ
เจอแดด แสงสวยๆ ก็เอาซะหน่อย อิอิ
ระหว่างทางก็มีธรรมชาติ ให้ชมเรื่อยๆ ครับ เดินค่อนข้างไกลนิด แต่มีอะไรให้ดู ให้ชมเรื่อยๆ
มีอาคารเก่า ซึ่งปัจจุบันก็ปรับปรุงเป็นอะไรไม่แน่ใจครับ แฮะๆ ขออภัย
ออนเซ็นต์กลางแจ้งแบบญี่ปุ่นก็มี เราถ่ายได้แค่รั้วรอบนอกครับ
ต้นดอกท้อก็กำลังออกดอกสวยงาม อยู่ในสวนรอบอาคารเก่าทรงญี่ปุ่นครับ
รั้วกำแพงหินก็สวยงาม (ไม่ชมนางแบบเลยนะ อิอิ)
ใครไม่เคยเห็นต้นการบูร บ้างครับ
เดินมาสักพัก ก็จะเจอป้ายทางเข้าแล้วครับ (ยังไม่ถึงอีกหรือเนี่ย 55)
เดินตรงเข้ามาก็จะเจอบ่อน้ำพุร้อนขนาดใหญ่กลางหุบเขาเลยครับ น้ำออกสีเขียวๆ ฟ้าๆ จะมีหมอกลอยขึ้นมาตลอดครับ น่าจะเป็นเพราะอุณหภูมิบนน้ำค่อยข้างเย็นครับ
มองไม่่ค่อยเห็นพื้นน้ำเลยครับ มีกลิ่นกำมะถันพอสมควร
ก็จะมีผู้คนมายืนถ่ายรูป ชมน้ำพุร้อนกันพอสมควร เดินเข้ามาด้านในๆ หน่อย คนจะน้อยกว่าครับ แต่เป็นทางตันนะครับ ขากลับก็เดินย้อนออกไปทางเดิม
ขอสักรูปนะ
ตรงประตูทางเข้ามีร้านขายของที่ระลึกด้วยครับ ลองเข้าไปเลือกชมกันได้
ตู้ไปรษณีย์อีกแว้ว 55
ขากลับเดินมาเส้นบน เจอมุมอาคารหอสมุดอีกมุมนึงครับ สวยดี (ไม่แน่ใจว่าต้นไม้ที่ถูกตัดไปเพราะไปบังมุมถ่ายรูปหรือเปล่า 555)
เจอรถกาแฟ มุ๊งมิ๊ง ด้วย น่ารักจริงๆ
ก็ชมน้ำพุร้อนเสร็จก็ออกเดินทางต่อครับ ใครมีเวลาจะลงแช่น้ำแร่ ก็ลองหาข้อมูลจากในกลุ่มดูนะครับ
สถานีต่อไป ก็ยังคงเป็นสายสีแดงครับ คราวนี้นั่งไปสุดสายเลย ที่สถานี Tamsui
ที่ Tamsui นี้ รอบที่แล้วก็มาครับ รอบที่แล้วเรานั่งเรือไป Fisherman Wharf มีฝนตก คราวนี้ก็เลยมาอีกครั้งแต่จะเปลี่ยนที่ไปบ้าง และสำคัญสุดคือตั้งใจมาลองชีสเค้กในตำนานให้ได้ จะยอมต่อคิวกันละ 55
เติมพลังด้วยชาเจ้านี้กันก่อน เจ้านี้มีความแปลกตรงไข่มุกเม็ดเล็กครับ ดูดทีนี่มาแบบเหมือนไข่ปลาเลย อร่อยดีเหมือนกันครับ
มาคราวนี้ เราจะไปเดินเล่นที่ Fort Anthonio กับ Tamsui Oxford College (Church of Aletheia University) ตึกเก่าแก่สวยๆ กัน
การเดินทางไม่ยากครับ จากสถานี MRT สายสีแดง สุดสาย ต่อรถสาย R26 ไป 6 ป้ายรถเมล์ ลงหน้าโบสถ์เลยครับ
ลงป้ายรถเมล์แล้วเดินขึ้นเนินไปหน่อยครับ
ดูจากปี น่าจะเก่าแก่มากทีเดียว
โบสถ์เก่าแก่ นี่แหละครับ ดูรูปทรงก็แปลกดีผสมผสานสไตล์ตะวันตกกับตะวันออก ก็มีเก่าโทรมบ้าง แต่ก็คงบูรณะเรื่อยๆ เพราะบางส่วนที่ใหม่ก็มีครับ
นี่แหละครับ Oxford แห่งไต้หวันที่แรก อาคารก็ดูออกทางตะวันออกส่วนใหญ่นะครับ สวยดี
ขอหมวยสักรูป
เก็บภาพ เก็บบรรยากาศ ไปเรื่อยๆ ครับ ช่วงนี้
เอ้า โดดๆๆ ... อิอิ
ภายในมีอาคารเก่าแก่หลายหลังเลยครับ จากโบสถ์ หรือ Aletheia University สามารถเดินไปยัง Fort Anthonio ได้เลยครับ อยู่ติดกัน เดินไปตามป้ายบอกทาง
พระอาทิตย์ใกล้ตกแล้ว
ภายในบริเวณ Fort Anthonio ก็มีอาคารเก่าแก่อยู่สองหลัง พอดีอีกหลังกำลังปรับปรุงอยู่ครับ
จากตรงอาคารเราสามารถเห็นวิวปากอ่าวของแม่น้ำ Tamsui ได้เลย ฝั่งตรงข้ามจะเป็นเกาะ ชื่อ Bali น่าจะเป็นท่าจอดเรือสินค้าด้วยนะเนี่ย สงสัยรอบหน้าต้องขอลองข้ามไปหน่อยละ
จาก Fort Anthonio ก็เดินลงมาตามสวนเรื่อยๆ เพื่อจะไปเดินเลาะริมแม่น้ำกลับไปยังถนนคนเดินย่าน Tamsui ครับ
ตู้นี้แปลกกว่าตู้อื่นแฮะ
บรรยากาศยามเย็น ใกล้ค่ำ ริมแม่น้ำ Tamsui
มองข้ามไปยังฝั่ง Bali ก็มีแสงไฟสว่างสไวกันแล้ว รอบหน้าคงต้องไปเยือนสักครั้ง อิอิ
บริเวณทางเดินริมแม่น้ำ ก็จะมีผู้คนกวักไกว่ไปมา มีการแสดงเปิดหมวกด้วย ร้องเพลงกันไป คนก็นั่งชมวิวริมแม่น้ำกันไป ดูแล้วเพลิดเพลินดีครับ
พระอาทิตย์ใกล้ลับฟ้า พร้อมกับเมฆเริ่มมา วันนี้เป็นอีกวันนึงที่ไม่เจอฝนเลย ดีจัง
หลังจากอิ่มกับบรรยากาศแล้ว ก็ได้เวลาหาอะไรรับประทานกันละ เราเดินเข้าถนนคนเดินเลยครับ Tamsui Old Street ถนนเส้นนี้จะขนานกับเส้นริมน้ำ เส้นนี้จะมีร้านขายของเยอะกว่านะครับ
เดินย้อนกลับไปยังสถานี MRT นี่แหละครับ
จัดก่อนเลย ชีสเค้กในตำนาน อร่อยมากนะ กิน 2 คนนี่กินกันจนก่อนนอนในสนามบินเลยแหละครับ 555 ชิ้นใหญ่ดี ตอนแรกก็ต่อคิว สักพักเค้าประกาศประมาณว่าซื้อ 1 ก้อนไม่ต้องต่อ ก็วิ่งไปเอาเลย ก็งงๆ นะว่าที่ต่อเค้ารออะไรกัน 555
มาเที่ยวนี้ไม่ได้เข้าร้านใหญ่ ขอลองร้านเล็กก่อนละกันครับกับ เสี่ยว หลง เปา ก็ใช้ได้นะ ร้อนๆ อร่อยดี แต่สู้ร้านใหญ่ได้หรือเปล่า ไม่แน่ใจ 55
กินมันไปเรื่อย น้ำกบ น้ำมะนาวใส่วุ้น ดูดแล้วก็แปลกๆ ชื่นใจดีครับ
บรรยากาศคึกคัก ผู้คนเยอะดี แต่ก็ยังไม่มากนะครับ ที่ Shilin Night Market นี่คือไม่ต้องเดินครับ ไหลตามคนเลย
อยากลองเหลือมาก ไข่นกกระทา ครก คือตอกไข่ใส่เตาคล้ายๆ ขนมครก แล้วก็เอาไม้เสียบ เวลาทานก็ราดซอสกับโรยผงปรุงรสเอา แปลกๆ ดี คิดถึงแม๊กกี้เลย อิอิ
ก่อนนอนคืนนี้ เราก็ยังไม่วายไปเดิน Ximen กันอีกรอบ 55 ไม่ใช่เดินเฉยๆ นะ ได้ของกินมาด้วย
ใน Ximen จะมีอยู่ซอยนึงครับ ที่มีร้านแบบ Street Food เป็นล็อกๆ เรียงกัน แล้วของแต่ละอย่างน่ากินทั้งนั้นเลย ดูภาพเลย
คนต่อคิวไม่รู้ร้านไหนกันล่ะเนี่ย
และนี่แหละครับ ที่เราตามหา มันฝรั่งราดชีสข้าวโพดแฮม โอวว มันใช่อาหารก่อนนอนมั้นเนี่ย 55 จริงๆ มีหลายหน้าหลายแบบนะครับ แต่แบบที่เราสั่งนี่ครบสุด ลองได้เลยห้ามพลาด
เดินย่อย ช้อปปิ้ง เก็บบรรยากาศอีกเล็กน้อย แล้วก็กลับที่พัก อ่อๆ คืนนี้เราย้ายที่นอนไปนอนแถว Taipei Main ด้วยครับ เพราะพรุ่งนี้ต้องขึ้นรถแถวนั้นจะสะดวกฝากของมากกว่า
จบแล้วครับ วันที่ 3 ของทริปไต้หวันครั้งที่ 2 ของเรา คู่เลิฟตะลอนกิน วันพรุ่งนี้ก็จะเก็บตกอีกนิดหน่อย ก็จะเดินทางกลับกันแล้วล่ะครับ ขอบคุณที่ติดตามกันนะครับ สวัสดีครับ ...
*****************************************************************************
กินที่เราอยากกิน เที่ยวที่เราอยากไป ขอให้มีความสุขกับทุกทริปกันนะจ๊ะ
#คู่เลิฟตะลอนกิน
Facebook : คู่เลิฟตะลอนกิน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น