ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

คู่เลิฟตะลอนกิน กลับมาอีกครั้งกับ เที่ยวไต้หวัน ... วันที่ 1/1 MaoKong Gondola

สวัสดีจ้า ...

ทริปนี้เป็นการกลับไปเยือนไต้หวันอีกเป็นครั้งที่ 2 แล้ว ... ประเด็นการตัดสินใจครั้งนี้มีหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็น โปรตั๋วเครื่องบินที่มีมาอย่างต่อเนื่อง สถานที่ที่ดูรีวิวไว้แล้วครั้งที่แล้วไม่ได้ไป ของที่อยากจะได้จากที่นั่น ญี่ปุ่นก็ยังจัดเวลาไม่ลงตัว โอยย เยอะ 555 ก็เลยไป ไต้หวัน อีกดีกว่า อิอิ ..

พอได้ตั๋วจะไปละ ทีนี้ล่ะ จะไปไหนดี ... คิดอยู่นานพอควร ทีแรกตั้งใจจะไปนอกไทเปบ้าง เช่น Sun Moon Lake, Taichung และกลับมาเก็บไทเป จองที่พักไปแล้ว สรุป ยกเลิก 555 เพราะว่าวางโปรแกรมไปมา แค่ไทเปก็คิดว่าหลายวันละนะ ไหนจะซื้อของอีก ก็เลยตั้งใจว่าคราวนี้แหละ เก็บไทเปให้หมด(ความตั้งใจนะ) ไปซ้ำที่เดิมบ้าง ที่ใหม่บ้าง คราวที่แล้วเจอฝนตกบ้าง สรุปจบที่ไทเป และรอบๆ คร้าบบ ..

ร่ายมาซะยาวเลย .. ก่อนอื่นขอขอบคุณแหล่งข้อมูลของเราเช่นเคย
Facebook Fanpage : #ท่องเที่ยวไต้หวันด้วยตัวเอง #TAIWAN หว่อไหลเลอ!- อย่างเยอะ เที่ยว กิน ช็อป!! #1000MilesJourney.com และ Sarinee Cheng เจ้าของหนังสือ เซียนไต้หวัน ขอบคุณแอดมินทุกท่าน ทั้งจากทางหน้าเพจและอินบล็อคส่วนตัวโดยเฉพาะคุณเก๋ (Sureeporn Pikulkrong) ขอบคุณครับ

เราไปไต้หวันรอบนี้ เดินทางช่วงสิ้นเดือน มกราคม 59 ก่อนตรุษจีนประมาณอาทิตย์เดียว เที่ยวนี้เราใช้บริการสายการบิน Vair ทั้งขาไปและกลับครับ เพราะอยากสัมผัสการนอนในสนามบินไทเป 55 ขอบอกว่าสบายนะแต่หนาวมั่กๆ ทีเดียว ใครจะไปควรเตรียมให้พร้อม และควรไปจองที่นอนกันแต่เนิ่นๆ นะครับ จะได้ที่สบายๆ อิอิ

เที่ยวบินขาไป ออกจากดอนเมือง เวลาออกก็ประมาณ ห้าทุ่มครึ่ง แต่เอาจริงๆ ก็เที่ยงคืนกว่าครับ ดีเลย์นิดหน่อย



ไปคราวนี้พาเพื่อนไปด้วย กะว่าจะไปถ่ายรูปเก๋ๆ อิอิ


ระหว่างรอเครื่องก็ถ่ายรูปกันหน่อย ขำๆ ขึ้นเครื่องจะได้นอนหลับสบาย จริงๆ เครื่องไม่ได้ออก เกทนี้นะ แต่สีสวยเลยมาถ่ายเล่นๆ 55

เครื่องลงเวลาประมาณ 6 โมงกว่าๆ นะครับถ้าจำไม่ผิด ตม.ยังไม่มีคนเลย ผ่าน ตม. เร็วมาก ผ่านมาปุ๊ป มองไปมองมา ไม่มีร้านไหนเปิดเลยหว่า 55 ตั้งใจจะซื้อซิม ร้านซิมก็ยังไม่เปิด เค้าบอกมีเคาท์เตอร์ไวไฟก่อนผ่าน ตม. ก็ไม่เห็นมี หน้าร้าน Hi-Life ที่ชั้นล่างก่อนขึ้นรถบัสก็ยกเลิกไปแล้ว สรุป หาของกินก่อน รอ 8.30 ร้านขายซิมจะเปิดนะครับ (อัพเดตกัน เห็นว่าตอนนี้มีเปิดเช้าแล้วยังไงก็ลองเช็คข้อมูลตามกลุ่มที่ผมแนะนำนะครับ) ใครหาวิธีไปร้านซื้อซิม ผมเคยลงไว้ตอนไปครั้งแรกนะครับ หรือจะเข้าไปหาข้อมูลตามกลุ่มที่แนะนำไว้ได้เลย (Link สำหรับ ครั้งแรกกับไต้หวัน วันที่ 1)


มื้อเช้าในสนามบิน ขอฝากไว้กับร้านคุ้นเคย Burger King ก่อนละกันครับ ร้านอื่นยังไม่เปิด


ระหว่างนั่งรอ ก็ชาร์ทไฟ ชาร์ทแบตให้พร้อมได้นะครับ ที่นี่สะดวกมากๆ


ที่นั่งรอก็ยังเก๋ไก๋ จริงๆ เมืองนี้ ประเทศนี้

เมื่อจัดการเรื่องซิมอะไรเสร็จเรียบร้อย ก็ได้เวลาเดินทางเข้าไทเปกันละ จุดมุ่งหมายของเราคือ ซิเหมิน ครับ เอากระเป๋าไปฝากไว้ที่ โรงแรมก่อน

การเดินทางเข้าเมืองไทเป มีหลายวิธี จะแท๊กซี่ รถบัส หรือรถไฟความเร็วสูงก็ได้ ขึ้นอยู่กับการวางแผนการเดินทางและความสะดวกของเรา คราวนี้เรามากัน 2 คน และอยากจะลองนั่งรถไฟความเร็วสูงของที่นี่ดูบ้าง เลยเลือกใช้วิธี นั่งรถบัสจากสนามบิน ไปสถานีรถไฟความเร็วสูง ที่เถาหยวน โดยนั่งสาย Ubus 705 ค่าโดยสาร 30 NT


นั่งรถบัสประมาณไม่กี่นาทีก็ถึงสถานีรถไฟละครับ รถมีวนมาตลอด เช้าๆ คนน้อยโล่งเลย 55 หรือเค้าไปทางอื่นกัน


เราจองรถตั๋วรถไฟมาล่วงหน้า จะได้ส่วนลด 30% วิธีก็ตามลิงค์นี้เลยครับ (เทคนิคการจองตั๋วรถไฟ)
เวลาไปขึ้นตั๋วก็ยื่นที่เราได้รับมาก็คือ barcode นั่นแหละครับ เค้าก็จะทราบทันที ถ้าขบวนที่จะมามีที่นั่งเค้าก็จะบอกครับ หรือเราจะเลือกเวลาก็ได้นะครับ เผื่อจะไปทำธุระกันก่อน ตามสะดวก



บรรยากาศชานชาลา ก็เหมือนรถไฟใต้ดินครับ แต่มีป้ายบอกทาง บอกเวลาละเอียดดี ด้านบนก็มีร้านขายของถ้าเดินทางยาวๆ ก็ไม่ต้องกลัวอดเลยครับ


บรรยากาศในรถก็สบายๆ เลยครับ ที่นั่งใหญ่โต กว้างกว่าเครื่องบินอิ๊ก อิอิ หนาวๆ เข้ามานี่อุ่นเลยนะครับ


นั่งสบายๆ ชิลๆ 20 นาทีกว่าๆ ก็ถึงสถานี หลักครับ Taipei Main Station เราต้องมาลงที่นี่เพื่อต่อรถไฟฟ้าใต้ดินไปยัง ซิเหมิน ครับ

เราพัก Galaxi Mini Inn ขึ้นจากสถานีซิเหมินมา ทางออก 2 เลี้ยวซ้ายมาแค่ 2 ตึกก็ถึงเลยครับ ที่นี่ถือว่าใกล้สถานี ใกล้แหล่งเดินช้อปปิ้งอย่างซิเหมิน เป็นห้องเดี่ยวมีห้องน้ำในตัว เสียอย่างเดียว ไม่มีลิฟท์ครับ 55 แต่เค้ามีลิฟท์ช่วยขนกระเป๋านะครับ ยังดีนะเนี่ย (ไม่มีรูปเลยครับ ฝนตก ถึงห้องแต่ละคืนก็มืดละ นอนอย่างเดียว)

ฝากกระเป๋าอะไร เรียบร้อยแล้ว ก็เริ่มออกเดินทางครับ ที่หมายแรกจะไปกระเช้าเหมาคงครับ เนื่องจากวันธรรมดา คาดว่าคนจะน้อย เคยเห็นคิวช่วงวันหยุดแล้วหนาวเลย หุๆ

ก่อนออกเดินทาง เดินหาร้านกินในซิเหมินก่อน เดินวนอยู่นาน เช้าๆ ร้านเปิดน้อยครับ ร้านที่ตั้งใจจะหาก็หาไม่เจอ 55 ไปเข้าอยู่ร้านนึง คนในร้านไม่สนใจเราเลย พูดจีนอย่างเดียว ชื้แล้วก็ไม่เข้าใจกัน เอิ่ม งั้นหาร้านใหม่ละกัน หลักเกณฑ์การเลือกร้าน หาร้านที่มีรูป มีเมนูเป็นรูป หรือ มีของวางให้เห็นๆ ว่าขายไรบ้าง นั่นล่ะครับ สะดวกสุด 55


ก็มาเจอร้านนี้แหละครับ คุ้นๆ ว่า ดังนะ น่าจะเป็นสาขาของร้าน ราชาน้ำเต้าหู้ หย่งเหอ (Yong He) ชัวร์ป่าวม่ะรู้ แต่แน่นอนรู้เมนูละ ต้องน้ำเต้าหู้ กับ โรลข้าวเหนียว 55 คือคราวที่แล้วเคยกินร้านนึงแถวย่าน CKS จำได้ ที่ร้านนี้ก็มีคล้ายๆ กัน เลยสั่งมาลอง เป็นข้าวเหนียวมาม้วนห่อไส้ มีไส้เหมือนหมูหยอง ปาท่องโก๋ และผักโรย อร่อยนะ ผมชอบ 55 ส่วนน้ำเต้าหู้ก็อร่อยดีครับ ที่ไต้หวันจะไม่หวานนะครับ

อิ่มแล้วออกเดินทางต่อ เป้าหมายสายสีน้ำตาล Wenhu Line > Taipei Zoo Station



รถไฟฟ้าสายนี้ จากที่เห็นจะเป็นแบบขนาดเล็กนะครับ แต่ไม่ใช่โมโนเรล ที่สำคัญไม่มีคนขับครับ!!! ใช่ครับ ไม่มีคนขับ จะมีเจ้าหน้าที่ขึ้นไปกับรถด้วย คอยเช็คตอนผู้โดยสารขึ้นรถ โอวว สุดยอด ถ้านั่งหน้าขบวนก็เห็นวิวเหมือนคนขับเลยล่ะครับ อิอิ


สุดสถานี ก็เดินมาสักประมาณ 5 นาที เพื่อมาขึ้นกระเช้าลอยฟ้า เหมาคง กันครับ ก่อนอื่นลืมบอกไป ไต้หวันกับฝนนี่หนีกันไม่ออกเลยครับ มาครั้งแรกก็ฝน ครั้งนี้ก็เจออีก เหอๆ เที่ยวแบบฝนๆ นี่แหละครับ เย็นๆ เปียกๆ ดี


YouBike มีทุกที่ สะดวกจริงๆ แต่ฝนตกๆ แบบนี้ เลยไม่มีคนใช้มั้งครับ


เดินมาเรื่อยๆ ก็ถึงละครับ สถานีกระเช้าลอยฟ้า


คิวด้านนอกไม่ยาวเท่าไร หุๆ อาจจะยังเช้าอยู่ หรือฝนตก ถ้ามี Easy Card ก็สามารถเข้าไปได้เลยนะครับ แตะๆ เอาไม่ต้องซื้อตั๋ว แต่ต้องมีเงินในบัตรนะครับ


กระเช้า มุ๊งมิ๊ง มาก สมกับเมืองนี้จริงๆ


กระเช้านี้แบบพื้นใสนะครับ คิวจะยาวกว่าพื้นธรรมดา ถ้าไม่อยากต่อคิวยาวก็สามารถแยกแถวไปต่อกระเช้าธรรมดาได้นะครับ


ขอหนึ่งรูปคู่สำหรับกระเช้า อิอิ หลบมุมถ่าย เพราะขาขึ้นจะมีคนอื่นๆ ขึ้นมาด้วยครับ ถ้าขึ้นแค่ 2 คน น้อยไปอย่างน้อยๆ ก็สี่คน จะได้ไม่ต่อแถวนาน


วิ๊วๆ สูงขนาดเจ้า ฝนตกพรำๆ แต่ลมไม่แรง ไม่มีปัญหา


ถ้ามาตอน แสงดีๆ ไม่มีหมอก ไม่มีฝน จะได้มุมตึก 101 สวยๆ อีกมุมเลยล่ะครับ ผมว่า


การนั่งกระเช้าจะใช้เวลาประมาณครึ่ง ชม. นะครับ จะมีสถานีหลักๆ ที่ลงกัน 3 สถานี สถานีแรกเป็นสถานีสวนสัตว์ สถานีที่สองในภาพด้านบนเป็นสถานี Shinan Temple และสุดท้ายคือ Maokong Station โดยเราจะไปลงสถานีปลายทางก่อน แล้วค่อยๆ นั่งลงมาแวะสถานีอื่นๆ นะครับ


โฮ่ ฮี้ โฮวว ขึ้นๆ ลงๆ แบบนี้แหละครับ สวยงามจริงๆ คือ ภาพอาจจะไม่สวย แต่ของจริงแนะนำให้ไปลอง ผมก็อยากให้เมืองไทยมีแบบนี้นะ จากที่เคยไปขึ้นที่ เก็นติ้ง มาเลเซีย ที่ไต้หวันก็เป็นอีกที่ ที่ทำดีมาก ไม่ได้รบกวนธรรมชาติมากเลย ลองศึกษาไว้ก็ดีนะครับ


วิวพาโนรามา บนสถานี Maokong หมอกจัดมากครับ ฝนก็มาเรื่อยๆ ปรอยๆ เม็ดละเอียดๆ


ขึ้นมาสถานี Maokong ควรจะหาแผนที่ กับทิศทางที่เราจะไปมานะครับ เพราะมันมีหลายจุด แยกซ้ายแยกขวา แล้วแต่ชอบ ส่วนเราเลือกเลี้ยวซ้ายครับ เดินบนถนนไปเรื่อยๆ เผื่อจะเจอร้านนั่งชิมชา ชิลๆ




ขณะเดินก็มีฝนเรื่อยๆ นะครับ หมอกอีกเพียบ


ร้านนี้ดูวิวดีมากเลย


มีร้านเยอะมากนะครับ เลือกไม่ถูก บ้างร้านก็เปิดแล้ว บางร้านก็ยัง แต่ดูๆ เหมือนจะเปิดช่วงเย็นส่วนใหญ่ คือถ้าฟ้าเปิด มองเห็นไฟในเมืองนี่จะสวยมากนะ และแต่ละร้านก็มักจะติดรูปวิวยามค่ำคืน แสงสีสวยๆ กันหลายร้านเลย เราก็เลยได้แต่ถ่ายรูป แล้วกลับครับ เพราะนั่งไปก็ไม่เห็นวิวอะไรเท่าไร ฝนตก เฮ้ออ ..


เดินไปเจอของกินน่าสนอยู่เจ้านึง ไม่รู้เรียกว่าอะไร เป็นแป้งอัดด้วยเครื่องเป็นแผ่นเหมือนโรตีแต่หนากว่า ไปทอดจนกรอบตอกไข่ลงไปบนแป้งแล้วก็พลิกๆ ให้ไข่สุก สุดท้ายสิ่งที่ขาดไม่ได้ของที่นี่คือ ทาซอส เรากลัวเลี่ยนเลยขอแบบ สไปซี่ ไปเลย อิอิ ก็อร่อยดีแป้งกรอบ กับไข่ กับซอสที่ทา มันก็ดีนะ 55


เซลฟี่มันกลางแยกเลย


กลับมาใกล้ๆ สถานี มีร้านขายชา มีไอศครีมด้วย ลองซะหน่อย ขนาดหนาวๆ นะ รสชาเขียวกับชาดำ ชาดำออกขมหน่อย กินรวมๆ ก็อร่อยดีครับ

คือเนื่องด้วยฝนมันตก เดินไปไหนก็ลำบากนิดหน่อย เลยตัดสินใจ ลงกระเช้ามาอีกสถานีครับ Shinan Temple Station



ลงสถานีมาก็มีกลิ่นอายของวัดจีนเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นน้ำพุมังกร ศาลา 8 เหลี่ยม สวยงามมาก แต่มุมไม่ได้ ติดฝนนี่แหละครับ 55



แต่ก็ยังได้ถ่ายรูปกับหินประจำปีเกิดนะ อิอิ

และด้วยอะไรไม่ทราบ อาจจะเป็นเพราะสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ปีนี้ ถึงเราจะไปเดือนมกรา แต่เราก็สามารถเจอซากุระได้ครับ โชคดีจริงๆ ถึงมันจะไม่มาก ฝนตกด้วย แต่ก็คุ้มนะที่แวะสถานีนี้




ก็พอมีหอมปากหอมคอครับ อิอิ

จากนั้นก็เดินไปวัดครับ จากสถานีไปไม่ไกลล ก็จะเจอครับ


จากรูปเป็นซุ้มประตูวัด สวยงามมาก แต่เราเดินมาเราจะผ่านมาทางข้างหลังคาของซุ้ม ก็งงๆ อยู่ 55


จากทางเดิน จริงๆ จะผ่านด้านในวัดก่อน แล้วจะมาออกด้านหน้าวัด ซึ่งจะเห็นมุมนี้ครับ แล้วถ้าอากาศดี ท้องฟ้าโปร่ง เราจะเห็นวิวเมืองด้านล่างจากมุมตรงข้ามกันนี้ แต่วันนี้เราไม่เห็นอะไร เพราะฝนตก ได้แต่มุมด้านหน้าของวัดครับ


ประตู ทางเข้าต่างๆ เป็นหินแกะสลักสวยงามมาก


บนตู้รับบริจาคทำบุญ จะมีกระดิ่งมังกรตั้งอยู่ ผมคิดว่าคงอธิษฐาน หยอดเงิน แล้วเคาะกระดิ่ง มั้งครับ เดาเอา 55


ดอกไม้ที่นำมาถวาย จัดมาแบบสวยงามมาก พร้อมมีป้ายติดอยู่ด้วย ไม่เข้าใจความหมายอีกเช่นกัน เหอๆ

ภายในวัดตบแต่งสวยงามมากครับ เดินชมได้ เราก็ได้แค่เดินและยกมือไหว้ ขอพร เหมือนเวลาเราไปวัดบ้านเราครับ เพราะไม่เข้าใจขั้นตอนของเค้าเหมือนกัน อิอิ

ออกจากวัด ก็มุ่งหน้ากระเช้าเพื่อลงไปด้านล่างต่อ สถานีสุดท้ายหรือสถานีแรกตอนขึ้นมานั้น น่าจะมีสวนสัตว์อยู่ แต่เราขอผ่านครับ ไม่ไหวฝนตกและเดินเฉอะแฉะไปหมดละ ไว้มีโอกาสกลับมาแก้ตัวใหม่ละกันนะครับ อิอิ


ก่อนกลับก็มุ้งมิ้ง กับมัสคอต ของที่นี่หน่อย อิอิ

ใช้เวลาสำหรับกระเช้าก็รวมๆ ครึ่งวันละครับ แต่วันแรกเรายังไม่หมดทริปนะครับ ยังมีต่อ แต่สำหรับสถานที่ที่เราจะไปกันต่อนั้น ขอยกไปไว้อีกบล็อกนะครับ รูปจะได้ไม่มากเกินไปครับ ฝากติดตามกันต่อนะครับ ขอบคุณครับ ...

วันที่ 1/2 คลิกเลยจ้า

*****************************************************************************
กินที่เราอยากกิน เที่ยวที่เราอยากไป ขอให้มีความสุขกับทุกทริปกันนะจ๊ะ 
#คู่เลิฟตะลอนกิน
Facebook : คู่เลิฟตะลอนกิน

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คู่เลิฟตะลอนกินลงใต้ ... ตอนที่ 6 จากเบตง ถึง ปีนัง One Day Trip

สวัสดีจ้า ... ตอนนี้เป็นตอนสุดท้ายของทริปนี้ เราจะไปชมเมืองปีนัง ประเทศมาเลเซียกัน โดยขับรถไปจากเบตง ไม่ใกล้ไม่ไกล เหมือนขับรถไปเที่ยวพัทยานี่เองจ้า ... ออกเดินทางจากเบตงแต่เช้าตรู่ ถนนหนทางยังว่าง สังเกตุเมืองบนเขายามเช้าจะมีหมอกบางๆ พอให้หนาวเย็นกันอยู่ อิอิ ที่ด่านศุลกากร คนยังน้อยเลยครับ สาเหตุที่ออกเช้าจะได้ไม่ต้องต่อคิวนาน ขับรถผ่านด่านมาสักพัก ก็เจอป้ายแล้ว เป้าหมายเราคือ Butterworth 104 กิโลเมตร เอง จิ๊บๆ ถนนหนทาง ก็พอๆ กับบ้านเราครับ วิวสวยงาม ทางลงเขาเหมือนกัน ทางลงจะวิ่งเลนเดียว ทางขึ้นมี 2 เลน เผื่อให้รถช้าขับชิดซ้าย วิ่งทางด่วนบูรพาวิถี 55 ไม่ใช่ละ ทางด่วนมีช่องจ่ายเงินหลายบัตรนะครับ แล้วแต่ใครจะมีแบบไหน ของเราก็ ทัชแอนโก คือ ต้องเอาบัตรไปแตะๆ ถึงเปิดได้ ส่วน สมาร์ทแท๊ก นั้น เหมือน อีซี่พาส บ้านเราครับ การข้ามไปเกาะปีนัง มี 2 แบบครับ 1 คือข้ามสะพาน 2 คือ นั่งเรือเฟอรรี่ ซึ่งผมเคยไปมาแล้วด้วยเรือเฟอรรี่ มันก็ดีนะครับ ไม่ต้องลงรถ ขับรถไปจอดใต้เรือ เรือข้ามถึงฝั่งก็ลง แต่เรือเค้าใหญ่มากนะครับ พอดีไม่มีรูป คราวนี้ก็ขับรถข้ามสะพานไป มันเร็วกว่...

ตะลอนกิน ร้าน MAGURO ซูชิสุดครีเอท

สวัสดีจ้า ... วันนี้ คู่เลิฟตะลอนกิน พามาชม มาชิม ร้านซูชิ สุดครีเอท กับร้าน MAGURO  ด้วยสโลแกน Fresh Sushi Creation ว้าว ... เราเห็นภาพโปรโมทอาหารทาง Fan page มานาน เลยหาโอกาสมาลองสักหน่อย ร้านตั้งอยู่ย่านบางนา ในโครงการ Chic Republic วิ่งมาจากบางนาจะเลยเซ็นทรัลบางนามา ผ่านจุดตัดถนนศรีนครินทร์ มานิดเดียวครับ ถ้ามาจากทางศรีนครินทร์ เลี้ยวซ้ายเข้าถนนบางนา มุ่งหน้าชลบุรี ออกมานิดเดียวก็ถึงครับ ร้านนี้เป็นร้านซูชิ ที่มีการครีเอทเมนูใหม่ๆ ให้เราได้รับประทานกัน แต่สิ่งที่ขาดไม่ได้แน่นอนคือความสด ของอาหารต่างๆ เราไปถึงร้านก่อนเที่ยงนิดหน่อย ก็ต้องรอคิวแล้วล่ะครับ ร้านนี้ ไม่เบาทีเดียว อิอิ ใช้เวลารอคิว สักพักนึง เพราะมาแค่สองคน ถ้ามาเยอะ อาจจะรอนาน แนะนำให้เลือกช่วงเวลานะครับ จะได้ไม่เสียอารมณ์ อิอิ ไปดูเมนูกันเลย เมนูมาในรูปแบบเก๋ไก๋ จริงๆ ชอบตะเกียบนะครับ คือไม่ต้องกลัวผิดด้าน ใช้ด้านไหนก็ได้ 55 ไอเดียดี มีที่มาของร้าน แนะนำร้าน เมนูระดับพรีเมี่ยม ตามฤดูกาล แน่นอน ระดับเราข้ามไปก่อน อิอิ หน้านี้เป็นเซ็ทที่ ทางร้านแนะนำ มีหลายราคา เลือกได้ตามใจชอบ แต่...

อาหารเช้า ไต้หวันสไตล์

การเที่ยวที่มีความสุขอีกอย่างหนึ่งคือ การได้ลิ้มลองของอร่อยประจำแหล่งนั้นๆ อาจจะขึ้นชื่อไม่ขึ้นชื่อ เจ้าดังหรือไม่ดัง อร่อย ถูกปากเราหรือไม่ ก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่ถ้าไหนๆ ไปแล้วก็คงต้องลองสักครั้งเพื่อให้รู้ว่าเค้ากินอะไรกัน รสชาติเป็นอย่างไร จริงหรือไม่ครับ ครั้งนี้เราไปไต้หวัน ก็มีโอกาสได้ลิ้มลองอาหารพื้นเมืองของคนไต้หวันมาบ้างพอสมควร ในบล็อกนี้จะรวบรวมอาหารเช้าที่เราได้มีโอกาสชิมรสมาแล้ว บางอย่างก็รสชาติใช้ได้ บางอย่างก็อาจจะจืดไปกับปากอย่างคนไทย อิอิ แต่โดยรวมเราถือว่ากินอยู่ที่นี่ได้แน่นอน ไม่อดตายแน่ๆ ครับ ลองไปดูกัน ร้านแรกอยู่ย่าน Ximen อยู่ด้านซ้ายมือถ้าเราห้นหน้าเข้าตึกแดง เดินมาทางซ้ายผ่านสถานีตำรวจมาครับ ร้านแรก จะเป็นสไตล์อเมริกันหน่อยครับ มีเบอร์เกอร์ แซนวิส กาแฟ ครับ  ขนมปังอร่อย ผักสด ส่วนเนื้อรสชาติจะอ่อนหน่อยนะครับ ร้านที่สอง อยู่ Ximen เหมือนกันครับ อยู่หลังตึกแดงฝั่งตรงข้ามครับ อีกร้านเป็นร้านสไตล์ไต้หวันครับ เป็นร้านบะหมี่ แล้วก็มีให้เลือกเครื่องเคียง หรือจะเป็นบะหมี่เกี๊ยว เนื้อเอ็น ครับ หน้าร้านจะมีหม้อตุ๋น หม้อลวกเส้น และเครื่องอื่นๆ คร...