ทริปค่อนวัน ไหว้พระ ชิมร้านดัง ที่สิงห์บุรี

สวัสดีจ้า :)

การตะลอนของคู่เลิฟทริปนี้ ไม่ได้วางแผนล่วงหน้า เนื่องจากอาหมวยน้อยจะไปไหว้พระทำบุญสักหน่อย ก็เลยมองหาจังหวัดใกล้ๆ กรุงเทพว่ามีที่ไหนพอไปได้บ้าง ประกอบกับมีเพื่อนรุ่นพี่ของอาหมวยน้อยเป็นคนจังหวัดนี้ สอบถามข้อมูลแล้วมีวัดเยอะดี มีร้านอร่อยๆ งั้นโอเคเราจะไปที่นี่กัน จังหวัดที่ว่านี้ก็คือ "สิงห์บุรี" นั่นเอง

จังหวัดสิงห์บุรี หลายคนอาจจะเคยแค่ผ่านเลยไป ไม่ได้สนใจจะแวะ ถ้าจะมาคือต้องตั้งใจมาและจะรู้ว่ามีดีอะไร นอกจากแม่ลาปลาเผา อิอิ

ตอนแรกเราก็ไม่รู้ว่าจังหวัดนี้มีอะไรบ้าง แต่หาข้อมูลไปมา ก็พบว่าเออ วัดเยอะดีเหมือนกัน มีทั้งวัดดังๆ อย่าง วัดอัมพวัน และวัดพระนอนจักรสีห์วรวิหาร ฯลฯ การไปครั้งนี้น่าจะได้ถึง 9 วัดทีเดียว จะครบหรือไม่มาติดตามกัน

คู่เลิฟพร้อมแล้วออกเดินทางได้

เป้าหมายวัดแรกวันนี้ เป็นวัดพระนอนจักรสีห์วรวิหาร ที่ภายในวิหารเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปไสยาสน์แบบสุโขทัยที่มีขนาดใหญ่ที่สุด และยาวที่สุด มีความงดงามมาก

ป้ายทางเข้าด้านหน้าวัด

องค์นี้เป็นองค์จำลองด้านหน้าวิหาร เพื่อให้พุทธศาสนิกชนสามารถปิดทองได้

องค์พระนอนองค์จริงอยู่ด้านใน มีขนาดใหญ่มาก มีความงดงามมาก ห้ามปิดทองนะครับ

มุมด้านเศียรพระฯ

ภายในจะมีองค์พระพุทธรูปล้อมรอบองค์พระนอนอีกที

มีอุโบสถกลางน้ำสร้างใหม่ด้านหลังวิหาร

ด้านในอุโบสถกลางน้ำ มีองค์พระใหญ่สีทองสวยงามตั้งอยู่

วัดนี้จะมีต้นสาละ อายุเก่าแก่มาก โดยเอาต้นพันธุ์มาจากประเทศอินเดียครับ 

ใครไม่เคยเห็นสามารถไปดูได้ (ที่บ้านผมก็มีต้นนึง) 

จบจากวันพระนอนจักรสีห์วรวิหารเรามุ่งหน้าไปอีกวัดหนึ่ง ที่อยู่ไม่ไกลกัน และน่าจะเป็นวัดดังอีกวัดหนึ่งของสิงห์บุรี ได้แก่ วัดพิกุลทอง พระอารามหลวง หรือหลวงพ่อแพ พระนักสร้างที่มีชื่อเสียงโด่งดัง

ที่วัดนี้นอกจากจะมีรูปหล่อองค์ใหญ่ของหลวงพ่อแพแล้ว ยังมีพระพุทธรูปปางประทานพรองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย คือ พระพุทธสุวรรณมงคลมหามุนี ตั้งอยู่ และรอบๆ ยังมีพระต่างๆ ที่น่าสนใจให้กราบสักการะกัน

วิวถนน ถ้ามาจากวัดพระนอนจักรสีห์ฯ วิ่งมานี่ พอใกล้วัดบรรยากาศเปลี่ยนเลยครับ เจริญขึ้นทันตา

วิวถนน ถ้ามาจากเส้น 309 จะเห็นว่าทางเข้าวัด 4 เลนกันเลยทีเดียวครับ

วิ่งเข้ามาจะเห็นองค์พระพุทธสุวรรณมงคลมหามุนี ตั้งอยู่ องค์ใหญ่มากมองเห็นแต่ต้นถนนเลยครับ

ด้านล่างฐานองค์พระฯ จะมีที่สำหรับจุดธูปเทียน สักการะ ตั้งอยู่

ด้านข้างองค์พระฯ จะมีวิหารตั้งอยู่ เป็นที่ตั้งของรูปเหมือนหลวงพ่อแพ องค์ใหญ่

จบจากวัดพิกุลทอง ตอนแรกตั้งใจจะไปอีกวัดหนึ่งชื่อ วัดเสถียรวัฒนดิษฐ์ เพื่อจะไปชมพระพุทธรูปทองคำ สมัยสุโขทัย ไปถึงวัดแล้วแต่ไม่พบเจออะไร มารู้อีกทีคืออยู่ในหอที่ปิดประตูไว้ ต้องมีพระพาชมแต่ตอนที่ไปไม่เจอพระ สงสัยติดกิจนิมนต์ ก็เลยออกมาเลยครับ ไว้ค่อยแวะไปใหม่

จากนั้นก็ได้เวลาอาหารกลางวันแล้วครับ ได้ร้านมา 2 ที่ จากคำแนะนำของเจ้าถิ่น ตัดสินใจได้ก็ไปกันเลยครับ ร้านนี้ตั้งอยู่ในเมืองใกล้ตลาด อยู่ปากทางทางเดียวกับโรงพยาบาลนั่นเอง เป็นร้านเก่าแก่เปิดมานาน ร้านดังครับ ชื่อร้าน "รำพึง"

การมาไม่ยากครับ มาสายเอเชีย เข้าเมืองสิงห์บุรี เจอสะพานข้ามแม่น้ำ ลงสะพานไฟแดงแรกเลี้ยวซ้ายเข้ามา ร้านอยู่ซ้ายมือครับ ตามป้าย ซอยเดียวกับโรงพยาบาลสิงห์บุรีเลยครับ

ร้านนี้ออกหลายรายการละครับ ดังจริง มีเมนูหลายอย่าง แต่คู่เลิฟไปกัน 2 คน ไม่มีสปอนเซอร์ สั่งมา 3 อย่างก็อิ่มมากละครับ อิอิ

จริงๆ มีเมนูเยอะ แต่เห็นว่าถ้าแขกเยอะจะพยายามให้สั่งในเมนูนี้เท่านั้นครับ คงจะได้เร็วตามความเข้าใจ ดูราคาแล้ว คงจานใหญ่ เลยสั่งมาลองสัก 3 อย่างก่อนครับ เน้นปลาน้ำจืด ไปดูกัน

จานแรกปลาช่อนสามรส ใส่ต้นคะน้า ปลาช่อนทอดได้กรอบมากครับ ราดน้ำสามรสมาธรรมดานิดหน่อย แต่คะน้ากรอบอร่อย ทานคู่กันเด็ดมากครับ

จานนี้ ปลาช่อนทอดน้ำปลา กรอบอร่อยแบบเค็มๆ ทานเพลินๆ เป็นกับข้าวก็ดี กับแกล้มก็เพลินครับ 

ต้มยำปลาคัง รสแซ่บ เข้มข้นถึงใจ ปลามีกลิ่นปลาน้ำจืดนิดหน่อยแต่อร่อยใช้ได้ครับ 

ทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ โอวว

แค่สามอย่างก็อยู่แล้วครับ สำหรับสองคน

เมื่ออิ่มท้องแล้ว เราก็มุ่งหน้าไปวัดต่อไป ครึ่งวันได้มา 2 วัดเอง สงสัยจะได้ไม่ถึง 9 วัดละครับ อิอิ

วัดต่อไปอยู่ใกล้ตัวเมืองครับ ชื่อ วัดประโชติการาม ไปสักการะหลวงพ่อสิน หลวงพ่อทรัพย์ กันครับ

มาถึงวัดอุโบสถกำลังซ่อมแซมอยู่เลยครับ จากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ปี 54 ยังบูรณะไม่เสร็จ แต่ยังเปิดให้เข้าไปสักการะหลวงพ่อได้อยู่ครับ ในอุโบสถจะมีพระพุทธรูปอยู่สององค์ ด้านหน้าเป็นหลวงพ่อสิน ด้านในเป็นหลวงพ่อทรัพย์ เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ตั้งแต่สมัยสุโขทัย ใครมีเวลาผ่านมาก็ช่วยกันทำบุญ ทำนุบำรุงวัดกันนะครับ จะได้กลับมาสวยเหมือนเดิม

องค์นี้เป็นองค์ด้านใน หลวงพ่อทรัพย์

องค์นี้เป็นองค์หน้า หลวงพ่อสิน

จบจากวัดประโชติการาม ก็มองหาวัดต่อไป แต่อากาศร้อนเหลือเกิน จำได้ว่าขามาฝั่งตรงข้ามทางแยกเข้าเมืองสิงห์บุรีจากถนนเอเซีย มีอยู่วัดหนึ่งอยู่ขากลับกรุงเทพฯ พอดี มีเจดีย์ทรงเหลี่ยมน่าสนใจ เลยแวะไปสักการะกัน วัดแห่งนี้ชื่อ วัดพระปรางมุนี

วัดนี้ถ้าวิ่งรถมาจากถนนเอเซียไปนครสวรรค์ จะอยู่ทางขวามือ มองเห็นเจดีย์ทรงเหลี่ยมตั้งเด่นเป็นสง่ามองเห็นแต่ไกล ภายในวัดมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้กราบไหว้สักการะอยู่หลายอย่าง ท่านใดสนใจสามารถแวะเวียนกันมาได้ครับ

มองด้านนอกเหมือนเจดีย์ แต่เข้ามาด้านในเป็นอาคารและมียอดแบบที่เห็นครับ เป็นสีทองทั้งหลัง

อุโบสถ สีทองเช่นกัน

อีกมุมหนึ่ง

วัดนี้มีการสร้างพระนอนองค์ใหญ่ด้วยครับ แต่เหมือนจะยังไม่เสร็จดี

เนื่องด้วยอากาศร้อนมาก ไปต่อไม่ไหวแล้วครับ สรุปเลยได้ไหว้พระไป 4 วัด อีก 1 วัดเหมือนแค่ผ่านไปครับเพราะไม่ได้สักการะอะไรเป็นสำคัญ ถ้าท่านใดตั้งใจจะมาไหว้พระสัก 9 วัด พร้อมกินอาหารอร่อยๆ แนะนำให้มาเช้าหน่อย ยังมีอาหารเช้าที่เจ้าถิ่นแนะนำ แต่เรายังไม่ได้แวะอีกเพียบ

สิงห์บุรี แม้ดูเหมือนจะไม่มีอะไรน่าสนใจ แต่สำหรับผมมองว่าเป็นจังหวัดที่มีวัดเยอะอีกจังหวัดหนึ่งเลยทีเดียว ถ้าไม่เน้นวัดใหญ่ๆ ดังๆ ระหว่างขับรถไปจะมีป้ายบอกวัดต่างๆ เยอะมาก เรียกได้ว่าไหว้พระ 9 วัดไม่ใช่เรื่องยากเลย แถมไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มาก และคนไม่เยอะแออัดเท่าอยุธยาครับ ลองจัด One day trip มาที่นี่กันครับ ที่สำคัญร้านอร่อยๆ เพียบ และอย่าลืมแวะซื้อปลาช่อนแดดเดียวกลับไปฝากคนที่บ้านกันนะครับ (แนะนำร้านเจ๊กุ้ง อยู่หน้าตลาดสดในตัวเมืองเลยครับ และร้านกุนเชียงปลา กุนเชียงหมูนายคิม ลองทานแล้วอร่อยมากครับ)

สุดท้ายนี้อย่าลืมติดตาม คู่เลิฟตะลอนกินแฟนเพจ
และมาคอยดูกันว่าในทริปต่อๆ ไปจะพาไปตะลอนเที่ยว ตะลอนกิน ที่ไหนกันนะครับ ขอบคุณมากครับ